รวมหลักสูตรอบรมออนไลน์

รวมหลักสูตรอบรมออนไลน์

ยุคโควิท 19 อย่างนี้ หลายคนอาจจะรู้สึกเบื่อที่จะต้องอยู่กับบ้าน ไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวกเท่าไร จากมาตรการทำงานที่บ้าน หรือ work from home ไม่ได้ออกไปไหนเลย แต่หากเรามองให้ดี เราสามารถพลิกวิกฤติตรงนี้ให้เป็นโอกาสได้เลย หลังจากการทำงานเสร็จเราสามารถใช้โอกาสตรงนี้ไปเรียนรู้ออนไลน์เพื่อเพิ่มความสามารถได้เลย ยิ่งตอนนี้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้มากขึ้นด้วย เรามาดูว่าหลักสูตรแต่ละกลุ่มสาขามีอะไรน่าสนใจบ้าง         หลักสูตรทางด้านภาษา เริ่มต้นกันที่ด้านภาษาก่อน ใครที่ชอบศึกษาภาษาใหม่ๆภาษาที่เราไม่คุ้นเคย เพื่อเปิดโลกทัศน์ของตัวเอง เราขอแนะนำเลย เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยได้เปิดหลักสูตรออนไลน์ชื่อว่า หลักสูตรภาษารัสเซียเบื้องต้น ด้านในมีบทเรียนทั้งหมด สิบบทเรียน รายละเอียดจะเกี่ยวกับ ตัวอักษร, ตัวสระ, การออกเสียงหนักเบา, เลขและลำดับ ฯลฯ ทำให้เรารู้จักพื้นฐานของภาษารัสเซียอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว หลักสูตรทางด้านเทคโนโลยี เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่อยู่กับเราทุกลมหายใจ ใช้งานอยู่ตลอดเวลาแต่เราจะรู้จักการใช้งาน เท่าทันสื่อมากแค่ไหน เราขอแนะนำหลักสูตรส่งเสริมการรู้เท่าทันสื่อสารสนเทศ และดิจิทัล เฝ้าระวังและใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ในมิติวัฒนธรรม เนื้อหาภายใจจะเกี่ยวข้องกับการรู้เท่าทัน การใช้งานสื่ออย่างสร้างสรรค์ การใช้ประโยชน์ของสื่อสังคมออนไลน์ และการรู้เท่าทันการค้าออนไลน์ใช้งานอย่างมืออาชีพ หลักสูตรนี้จะทำให้เราเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสื่อมากขึ้นตามลำดับ หลักสูตรการจัดการ …

การอบรมมีความสำคัญอย่างไร

การอบรมมีความสำคัญอย่างไร

ยุคนี้การทำงานไม่ว่าจะเป็นสาขาใดก็ตามไม่ง่ายเลย จะต้องมีการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพื่อทำให้ตัวเองมีขีดจำกัดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญเพื่อพัฒนาตัวเอง เป็นเรื่องการอบรม สัมมนา ตอนนี้เป็นเรื่องการอบรมบนระบบออนไลน์จะง่ายกว่าจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เรามาดูกันว่าการอบรมมีความสำคัญอย่างไร         การเพิ่มความรู้ให้กับตัวเอง สิ่งสำคัญที่สุดของการอบรม ไม่ว่าจะเป็นระบบออนไลน์ หรือ ออฟไลน์ก็ตาม นั่นก็คือการอบรมเป็นวิธีการเพิ่มความรู้ให้กับตัวเองโดยตรง ซึ่งความรู้ตรงนี้เราขอแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม หนึ่งเป็นกลุ่มที่ตรงกับสายงานหรือวิชาชีพของตัวเอง การอบรมกลุ่มนี้จะเน้นเพื่อการพัฒนางานของตัวเอง หรือ เพิ่มขีดความสามารถในการเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นได้เป็นต้น สองเป็นกลุ่มที่ไม่ตรงกับสายวิชาชีพของตัวเอง อาจจะเป็นการอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพอื่นของตัวเอง อย่างการอบรมเกี่ยวกับการใช้งานโปรแกรมใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ หรือ อาจจะเป็นการอบรมทางด้านวิชาชีพทำอาหาร ทำขนมแบบนี้ก็ได้ การอบรมแบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการอบรมเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับตัวเองทางด้านอาชีพ หรือ เพิ่มความถนัด ความชอบ ความสนใจก็เป็นได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความเราชอบสายไหน แต่สรุปว่าการอบรมเป็นการเพิ่มความรู้ให้กับตัวเองโดยตรงทางหนึ่ง ยิ่งยุคนี้ออนไลน์ด้วยการอบรมสำคัญมาก ทำได้หน้าจอ อยู่บ้าน พอทุกอย่างดีขึ้นการอบรมอาจจะเป็นการเพิ่มช่องทางให้กับตัวเองได้ สร้างเครือข่าย การอบรมหากเป็นยุคก่อนโควิท 19 สิ่งที่สำคัญของการอบรม คงเป็นเรื่องการได้เจอกับผู้คนมากมาย ตั้งแต่วิทยากรที่มาอบรม เพื่อนผู้เข้ารับการอบรม จนถึงทีมงานสต๊าฟเบื้องหลังในการทำงาน การเจอคนเหล่านี้หากเราเปิดโอกาสให้กับตัวเอง …

แนะนำสถานที่จัดสัมมนายอดนิยมในกรุงเทพ

แนะนำสถานที่จัดสัมมนายอดนิยมในกรุงเทพ

การอบรมสัมมนาถือว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สำคัญมากของคนทำงานในยุคนี้ เพราะว่าการสัมมนาเป็นการประชุมร่วมกันอีกรูปแบบหนึ่งเพื่อพัฒนาตัวเองและองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าได้ ในกรุงเทพมีสถานที่จัดสัมมนามากมายที่อยู่ใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวก มีที่ไหนกันบ้าง         The Society เริ่มต้นกันที่ อาคารเกสร ทาวเวอร์ชั้น 22 ตรงนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นทำเลที่ดีมากสำหรับการจัดประชุมใจกลางเมืองแบบที่ผู้เข้าร่วมประชุมมาจากหลากหลายที่แล้วเดินทางสะดวก อย่างแรกเลยจุดเด่นอยู่ใกล้กับ บีทีเอส สถานีชิดลมมากเพียงแค่ 300 เมตรเท่านั้นเอง สำหรับห้องประชุมนั้นมีเครื่องมือสำหรับการประชุมครบถ้วน ห้องมีขนาดประมาณ 600 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้ 40-100 ตามขึ้นอยู่กับการจัดห้อง อีกหนึ่งจุดเด่นเป็นเรื่องวิวทิวทัศน์ที่มองเห็นมองกรุงเทพได้รอบด้าน จากตึกสูง ไม่เท่านั้นหากสัมมนาเสร็จแล้วอยากประชุมกลุ่มย่อยต่อก็มีห้อง Co-working space ไว้ให้ด้วยอีกห้องหนึ่ง Crowne plaza Bangkok Lumpini Park โรงแรมนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่เค้ามักจะเลือกใช้เป็นสถานที่ประชุมสัมมนากลางเมืองกรุงเทพด้วยเช่นกัน มีห้องหลายขนาด ทั้งห้องแบบบอลล์รูมขนาดใหญ่ รองรับได้ 100-400 คน และห้องลุมพินี ห้องขนาดเล็กสำหรับการประชุมกลุ่มย่อย และเป็นส่วนตัวมาก จุดเด่นอีกเรื่องอยู่ใกล้ทั้งสถานีบีทีเอส …

เรียนรู้แนวทางการพัฒนาตนเองในการทํางาน

เรียนรู้แนวทางการพัฒนาตนเองในการทํางาน

ไม่ว่าเราจะเรียน หรือ ทำงานอะไรก็ตาม สิ่งที่ต้องมีอยู่เสมอก็คือการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้ตัวเองมีความสามารถมากขึ้นเรื่อยๆ ในแนวทางของตัวเอง แต่การพัฒนาตัวเองมีแนวทางอย่างไรเพื่อให้การพัฒนาตัวเองนั้นเกิดขึ้นได้จริงและมีผลที่ดีตามาจริงๆ เรามีแนวทางการพัฒนาตัวเองในการทำงานมาฝากกัน         อ่านหนังสือเป็นประจำ การจะพัฒนาตัวเองได้ ในระดับวัยทำงาน การอ่านหนังสือเป็นพื้นฐานแรกของการอ่านหนังสือเลยก็ว่าได้ คำแนะนำก็คือควรหาเวลาอ่านหนังสือให้ได้สักอย่างน้อย ครึ่งชั่วโมงต่อวัน หรือมากกว่านั้นก็ได้ หนังสือที่ควรอ่านก็อาจจะมีทั้งหนังสือการพัฒนาตัวเอง หนังสือความรู้ในวิชาชีพของตัวเอง หนังสือการบริหาร หรือหนังสืออื่นๆตามความสนใจ การอ่านหนังสือจะทำให้เราได้เพิ่มแนวคิด เปิดโลกทัศน์ของตัวเองให้มากขึ้นด้วย การบริหารเวลา ไม่มีเวลา มักจะเป็นข้ออ้างข้อแรกในการชักชวนกันไปพัฒนาตัวเอง ให้ดีขึ้น พอเราบอกกับตัวเองว่าไม่มีเวลา ทุกอย่างก็คงจะไม่ได้พัฒนาตัวเองต่อไป ดังนั้นเราต้องบริหารเวลาให้คุ้มค่ามากที่สุด หากต้องการพัฒนาตัวเองอาจจะต้องบริหารเวลาด้วยการสละอะไรสักอย่างเช่นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม เพื่อเอาเวลานั้นไปพัฒนาตัวเองตามต้องการ สังเกตได้เลยว่าคนที่ประสบความสำเร็จจะบริหารเวลาได้ดี จนมีเวลาเหลือไปทำในสิ่งที่ต้องการ สุขภาพแข็งแรง หากต้องการจะพัฒนาตัวเอง สิ่งหนึ่งที่เราต้องพึงระวังไว้เป็นเรื่องสุขภาพ ต้องไม่ให้เจ็บป่วย หากสุขภาพร่างกายแข็งแรง เราจะพัฒนาตัวเองอย่างไรก็ย่อมได้ แต่หากเราเจ็บป่วยจะไปพัฒนาตัวเองอะไรก็ยาก เนื่องจากอาการเจ็บป่วยจะทำให้ความสามารถในการเรียนรู้ของเราลดลงอย่างน้อยก็เหลือเพียงแค่ครึ่งเดียวที่มี เป้าหมายชัดเจน ก่อนที่เราจะเลือกพัฒนาตัวเองอะไรออกไป เราต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่าเราต้องการจะพัฒนาตัวเองเรื่องอะไร อย่างเช่นหากเราต้องการพัฒนาทางด้านภาษา …

การพูดสุนทรพจน์ที่ดี

การพูดสุนทรพจน์ที่ดีต้องมีหลักการอย่างไร

การพูดสุนทรพจน์เป็นเครื่องมือที่ดีมากอย่างหนึ่งในการสื่อสารทั้งในระดับการเรียน จนถึงระดับการทำงานปฏิบัติการ จนถึงการออกนโยบายของประธานบริษัท หากพูดสุนทรพจน์ดีจะเป็นการส่งสารสิ่งที่ต้องการจะสื่อให้คนในองค์กรเข้าใจได้มากขึ้นแต่การจะพูดสุนทรพจน์ที่ดีนั้นไม่ง่ายเลย ต้องมีการเตรียมตัว ฝึกซ้อม ตามหลักการด้วย เค้าทำกันอย่างไร เรามีคำตอบบางส่วนให้ไปลองทำตามกัน     การเตรียมเนื้อหาของสุนทรพจน์ อย่างแรกเลยการเตรียมเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื้อหาที่พูดบอกเลยว่ามันต้องจับใจคนฟัง และเข้าใจง่าย ทำอย่างไรจะได้สองสิ่งนี้มาอยู่ในมือ คำตอบอยู่ที่การเตรียม เราต้องถามตัวเองก่อนว่า จะพูดสุนทรพจน์ในหัวข้อใด มีความหมายอย่างไร ตีความให้ถูกต้องและครอบคลุมสิ่งที่ต้องการจะสื่อทั้งหมด จากนั้นเตรียมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราจะพูดออกมาให้ชัดเจน อาจจะมีการยกข้อมูลเชิงสถิติ การเปรียบเทียบ อะไรก็ได้ทำให้น่าเชื่อถือมากขึ้น แต่การจะยกข้อมูลเหล่านี้มาต้องเช็คให้ดีก่อนว่า มันตรงตามนั้นข้อมูลน่าเชื่อถือจากแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้เช่นกัน อีกอย่างการนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ต้องเกี่ยวข้องกับหัวข้อหลักที่เราต้องการจะนำเสนอด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากเราต้องการจะพูดเกี่ยวกับการขายที่ดี เราอาจจะต้องเอาสถิติการขายมาอ้างอิง ไม่ใช่เอาสถิติหนี้เสียซึ่งไม่เกี่ยวมาอ้างอิง จะทำให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ กำหนดเวลาในการพูดสุนทรพจน์ พอได้เนื้อหาตามที่ต้องการแล้ว ก่อนจะเข้าสู่ช่วงของการซ้อม ให้เรากำหนดไว้เลยว่า สุนทรพจน์ที่เราจะพูดนั้นจะใช้เวลาเท่าไร หรือ เค้าให้เวลาเราพูดเท่าไร เพื่อให้เราคัดเลือกเนื้อหาที่จำเป็น และเรียงลำดับตามความสำคัญให้ครบถ้วนภายในเวลาที่กำหนด โดยปกติสุนทรพจน์หากเป็นระดับการแข่งขัน อาจจะใช้เวลาไม่เกิน 5-10 นาที แต่หากเป็นการพูดสุนทรพจน์ทั่วไปอาจจะนานกว่านั้น แต่ไม่เกิน 20 นาที …

เทคนิคการนําเสนอผลงาน presentation

เทคนิคการนําเสนอผลงาน Presentation

การนำเสนอผลงานกลายเป็นทักษะจำเป็นอย่างมากของคนวัยเรียน จนถึงวัยทำงาน ยิ่งวัยทำงานสำคัญมากเลย เพราะการนำเสนอที่ดีจะทำให้การตัดสินใจจากหัวหน้า หรือ ลูกค้าทำได้มากขึ้น แต่การนำเสนอนอกจากการซ้อมให้คล่องปากแล้วยังมีเทคนิคการนำเสนออะไรอีก เราจะมาบอกเคล็ดลับกัน     Presentation เน้นเรียบง่าย การทำ presentation สมัยนี้เทรนด์เค้าจะเน้นสไตล์ แบบ มินิมอล เรียบง่าย ให้นึกถึงภาพ อินโฟกราฟฟิค เป็นหลัก ภาพแบบนี้จะทำให้ผู้รับฟังการนำเสนอของเราเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น ให้เค้าดูภาพคร่าวๆของหัวข้อที่เราจะนำเสนอในสไลด์ แทน ส่วนรายละเอียดให้เราอธิบายเอาจากการพูด(แบบสั้น กระชับ) จะทำให้เข้าใจมากขึ้น และสไลด์มีความน่าสนใจมากกว่า อย่าทำแบบตัวหนังสือล้วนๆเด็ดขาด อันนั้นเป็นงานวิชาการดูแล้วจะหลับ ว่ากันเรื่องสไลด์ นอกจากความินิมอลแล้ว เรื่องของทฤษฏีสีก็สำคัญ สมัยนี้เราขอแนะนำว่าอย่าเล่นสีฉูดฉาดมากในสไลด์มันจะทำให้แสบตาและคนดูตกใจจนไม่อยากดูเบือนหน้าหนี(ยกเว้นเรานำเสนอสินค้าที่ต้องมีสีฉูดฉาดอย่างเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า) ควรเน้นสีแบบคลาสสิค คุมโทน คุมธีมสไลด์นำเสนอไปในทางเดียวกัน เอกสารแจกต้องมี ผู้เข้ารับการนำเสนอ สิ่งที่พวกเค้าจะต้องมีก็คือ เอกสารการนำเสนอของเราเองต้องแจกให้ครบกับผู้รับฟังทุกคน เพราะการมีเอกสารในมือจะทำให้การรับฟังเข้าใจได้ง่ายขึ้น น่าติดตาม แต่หากไม่มีคนส่วนใหญ่ก็จะฟังมั้งไม่ฟังมั้ง ไม่ได้จดอะไรเลย แต่ถ้ามีเอกสารในมือก็จะดูตามไปได้ พร้อมกับมีข้อสงสัยถามได้ตลอด นำเสนอ …